วันพฤหัสบดี ที่ 1 พ.ค. 2568
เกร็ดความรู้
คนญี่ปุ่นมีวิธีรับมือกับแผ่นดินไหวอย่างเป็นระบบและมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อป้องกันความเสียหายอยู่ตลอดเวลา โดยแนวทางการรับมือสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1. การเตรียมความพร้อมของประชาชน
• การฝึกซ้อม: มีการจัดซ้อมอพยพเป็นประจำ โดยเฉพาะในวันที่ 1 กันยายนของทุกปี (วันป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติ)
• ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า: รัฐบาลและบริษัทโทรคมนาคมร่วมกันพัฒนาระบบแจ้งเตือนฉุกเฉินผ่านโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ และวิทยุ
• การศึกษา: นักเรียนและประชาชนได้รับการสอนเรื่องวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เช่น “Drop, Cover, Hold On” (หมอบ คลุม ยึดเกาะ)
• อุปกรณ์ฉุกเฉิน: บ้านเรือนมักมีชุดยังชีพ เช่น ไฟฉาย น้ำดื่ม อาหารแห้ง และวิทยุสื่อสาร
2. การออกแบบอาคารและโครงสร้างพื้นฐาน
• อาคารต้านแผ่นดินไหว:
• ฐานรากแบบกันสั่น (Base Isolation): ใช้แผ่นรองรับแรงสั่นสะเทือน เช่น ยางพาราหรือเหล็กผสม เพื่อดูดซับแรงสั่นสะเทือน
• โครงสร้างยืดหยุ่น (Damping System): ใช้โช้คอัพหรือลูกตุ้มขนาดใหญ่เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนของอาคาร
• วัสดุอัจฉริยะ: ใช้เหล็กกล้าพิเศษและคอนกรีตที่มีความยืดหยุ่นสูง ลดความเสี่ยงต่อการแตกร้าว
• สะพานและทางด่วนกันแผ่นดินไหว:
• ใช้เสาค้ำยันแบบยืดหยุ่นและมีจุดเชื่อมต่อที่ช่วยให้สะพานเคลื่อนตัวได้โดยไม่พัง
• มีระบบตัดการจ่ายแก๊สและไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
3. เทคโนโลยีที่ใช้ในปัจจุบัน
• ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว (Earthquake Early Warning - EEW): ตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหวและแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์และสื่อสาธารณะ
• AI และ Big Data: ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการเกิดแผ่นดินไหวล่วงหน้าเพื่อทำนายแนวโน้มการเกิดและผลกระทบ
• ดาวเทียมและเซ็นเซอร์: ติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนทั่วประเทศและใช้ดาวเทียมตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก
• หุ่นยนต์กู้ภัย: ใช้โดรนและหุ่นยนต์สำรวจซากอาคารเพื่อลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรการป้องกันแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลก และยังคงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง